มันไม่สำคัญว่าคุณเจอกับอะไร แต่คุณคิดและรับมือกับมันอย่างไรมากกว่า

ความผิดหวังเป็นภาวะที่ไม่มีใครต้องการเผชิญ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราทุกคนคงจะหนีไม่พ้น  ไม่ว่าคุณจะต้องเจอกับความสันพันธ์ที่ไม่ลงตัว หรือคุณอาจจะพลาดโอกาสสำคัญในหน้าที่การงาน ไม่ว่าคุณจะต้องเจอกับคงามผิดหวังในเรื่องอะไรก็ตาม แทนที่เราจะมัวแต่มานั่งคิดหมกมุ่นอยู่กับมัน ให้คิดซะว่ามันคือบทเรียนสอนเราให้แกร่ง ซึ่งบางทีมันอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่เราคิด และมันมักจะมีทางออกหลายๆทางที่เราอาจไม่ได้คาดคิด มาดูกันว่าเราจะมีวิธีรับมือกับความผิดหวังได้อย่างไรกัยบ้าง?

ขั้นตอนที่หนึ่ง

ให้ปลดปล่อยความรู้สึกของเราออกมา มันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะรู้สึกเศร้า แย่ โกรธ และผิดหวังอย่างรุนแรง  เมื่อคุณรู้ว่าสิ่งที่คุณได้คาดหวังไว้ไม่ได้เป็นไปตามที่คุณคาดคิดว่ามันจะเป็น  ไม่ว่าจะเป็นคุณถูกบอกเลิกจากแฟนแทนที่เขาจะขอคุณแต่งงาน

คุณไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง หรือคุณไม่ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง  ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมชาติที่คุณจะรู้สึกเจ็บปวด โกรธแค้น เสียใจ เสียความรู้สึก ดังนั้นให้ยอมรับความจริงซะ แล้วก็ให้หาคนที่เราสามารถระบายความรู้สึกให้เขาฟัง

ซึ่งคนคนนั้นจะต้องเป็นคนที่เรารู้สึกสบายใจและไว้ใจที่จะระบายความในใจให้เขาฟัง อาจจะเป็นเพื่อน ญาติหรือคนในครอบครัว  ถ้าอยากจะร้องไห้ก็ร้องต่อหน้าเขาหรือเธอคนนั้นไปเลย ไม่ต้องอายที่จะแสดงความรู้สึกของเราออกมา   การปลดปล่อยความรู้สึกออกมามันดีกว่าที่เราจะเก็บมันไว้ภายในใจ  คุณอาจจะเขียนบรรยายความรู้สึกลงในไดอารี่หริอบล็อกส่วนตัวซึ่งถ้าไม่อยากให้สาธารณชนอ่านก็เลือกไม่เผยแพร่บล็อกซึ่งวิธีนี้ไม่มีใครสามารถอ่านบล็อกของคุณได้

ขั้นตอนที่สอง

ให้มองสิ่งที่เกิดขึ้นในมุมมองที่กว้างขึ้น หลังจากที่คุณได้ระบายความรู้สึกออกไปแล้ว ถึงเวลาที่คุณจะต้องถอยออกมาสักก้าวแล้วให้มองภาพรวม ถามตัวคุณว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับคุณตอนนี้ มันจะมีผลกระทบต่อคุณนานแค่ไหน? หนึ่งอาทิตย์ หนึ่งเดือน หรือเป็นปี?  การตั้งคำถามนี้จะเป็นการพาคุณกลับไปยังโลกแห่งความเป็นจริง  สูดลมหายใจเข้าลึกๆ  ออกไปเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ ฟังเพลงโปรด  อ่านหนังสือ คำคม คติ หรือบทความออนไลน์ที่ช่วยสร้างกำลังใจให้คุณ  หาช่องว่างและเวลาเพื่อที่จะให้คุณได้ปล่อยวางความทุกข์ ความผิดหวังที่เกิดขึ้นและกลับมาคิดใหม่อย่างมีสติได้อีกครั้ง  การที่เราใช้เวลาไตร่ตรองพิจารณา และถอยออกมาจากสถานการณ์มันจะช่วยให้ใจเราสงบและมีสติ ซึ่งมันจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับความผิดหวังได้ดีขึ้น และมันยังจะช่วยทำให้เราเห็นภาพใหญ่ได้ชัดเจนขึ้นด้วย  ถ้าคุณไม่ได้งานที่คุณไปสัมภาษณ์มา คุณอาจจะเจองานอื่นที่ดีกว่าเพียงแต่คุณอาจจะมองข้ามมันไป หรือถ้าคุณถูกแฟนทิ้งคุณอาจจะมีแฟนใหม่ที่ดีกว่าคนเก่าทุกอย่างและเขาอาจจะเป็นคู่ชีวิตคุณก็ได้

ขั้นตอนที่สาม

อย่าตั้งข้อสงสัยกับตัวเอง  การเผชิญกับความผิดหวังทำให้คุณรู้สึกแย่เกี่ยวกับตัวคุณ คุณอาจจะคิดว่าคุณไม่เอาไหน  หรืออาจจะคิดว่าทำไมเรื่องแย่ๆถึงเกิดขึ้นกับคุณตลอดเวลา อย่าทำให้ความรู้สึกลบๆทำให้คุณรู้สึกแย่ไปกว่านี้  จริงๆแล้วไม่ใช่แค่คุณหรอกนะที่เจอกับความผิดหวัง  ทุกคนในโลกนี้ล้วนต่างก็เคยพบเจอกับความผิดหวังมากันทุกคน แทนที่จะมานั้งซ้ำเติมตัวเอง  ให้คิดใหม่ว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง ทำสิ่งที่มันอาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตคุณ เหมือนข้อคิดที่ว่า “การที่เราจะได้อะไรบาง

อย่างบางครั้งมันอาจจะต้องแลกกับหยาดเหงื่อและน้ำตา”  มีคนที่เขาประสบความสำเร็จหลายๆคนที่กว่าจะประสบความสำเร็จพวกเขาต้องล้มเหลวหลายๆครั้ง   ดังนั้นให้คิดว่าความล้มเหลวคือบทเรียน แล้วก็อย่าล้มเลิก

ขั้นตอนที่สี่

ให้รู้สึกขอบคุณในสิ่งที่เรามีและเป็นอยู่ ซึ่งคุณอาจจะคิดว่า เวลาที่คุณกำลังผิดหวังอย่างรุนแรงแบบนี้คุณจะมีใจไปคิดขอบคุณอะไรแบบนี้ได้อย่างไรกัน? คุณอาจจะคิดว่าชีวิตคุณได้จบสิ้นแล้ว  จริงๆมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิด  มันยังมีสิ่งดีๆอีกหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตคุณ คุณมีครอบครัวที่น่ารักที่คอยสนับสนุนและอยู่เคียงข้างคุณเสมอ  คุณมีสุขภาพทีดี  มีเพื่อนที่ดี  มีบ้านอยู่ มีรถขับ มีสัตว์เลี้ยงที่คุณโปรดปราน มีศักยภาพในการทำงาน ลิสต์มันลงกระดาษ คุณจะเห็นว่าคุณมีสิ่งดีๆเยอะกว่าสิ่งแย่ๆมากมายก่ายกอง ที่จริงแล้วสิ่งที่คุณมีอยู่ณตอนนี้มีความสำคัญกว่าความผิดหวังที่คุณเผชิญ 

ขั้นตอนที่ห้า

ทำแผนใหม่  ถ้าแผนเดิมไม่ประสบความสำเร็จ  ไม่มีปัญหา ลองแผนอื่นดู  เรือเดินทะเลก็ยังต้องเปลี่ยนเส้นทางในตอนกลางดึก  เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับอุปสรรคหรือภัยอันตรายต่างๆที่อาจมาจู่โจมแบบไม่ได้วางแผนล่วงหน้า  แล้วคุณหล่ะ?  หาแนวทางใหม่เพื่อที่จะทำให้คุณได้งานที่คุณใฝ่ฝัน  ชายในฝัน  เสาะแสวงหาคำแนะนำจากผู้ที่เขาอยู่ในเครือข่ายงานที่คุณอยากทำ  หรือถ้าคุณถูกคนรักทิ้งก็ลองปรึกษาญาติสนิทของคุณ  ผู้ที่เคยผ่านปัญหานั้นมาก่อนคุณ  เช่นอาจจะมีญาติผู้หญิงที่เคยหย่าร้างกับสามี  หรือเลิกกับแฟน  ถึงแม้ว่าการปรึกษาคนหลายๆคนอาจได้มุมมองที่แตกต่าง  แต่อย่างน้อยมันก็จะช่วยให้มุมมองต่อปัญหาของคุณดีขึ้น  แล้วคุณก็จะเห็นว่ามันไม่ใช่แค่คุณที่เจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ ยังมีผู้คนรอบข้างคุณอีกมากมายกฃที่เขาก็ผ่านเรื่องแย่ๆมาเช่นกัน แถมบางทีอาจจะหนักกว่าเรื่องของคุณอีกหลายเท่า 

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็หวังว่ามันคงจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น แล้วก็ที่สำคัญหวังว่าคงจะช่วยเปิดมุมมองของคุณให้กว้างขึ้น  สรุปก็คือ" มันไม่สำคัญว่าคุณเจอกับอะไร  ผิดหวัง เสียใจ ทุกข์แค่ไหน แต่สิ่งที่สำคัญคือคุณคิดและรับมือกับมันได้อย่างไรมากกว่า"

และที่สำคัญคืออย่าให้ความคิดลบๆนั้นทำร้ายคุณ  ให้ปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่  แล้วก็ยอมรับความจริงถึงแม้ว่ามันจะทำให้คุณต้องเจ็บปวด  แล้วก็ใช้มันเป็นบทเรียนที่จะทำให้เราแกร่ง  และสุดท้ายก็คือหาเส้นทางใหม่แล้วเดินหน้าต่อไปจนกว่าคุณจะถึงจุดหมาย

“ถ้าไม่มีสายฝนเราก็ไม่มีวันได้เห็นสายรุ้ง”