3/8/16

การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนเพื่อให้งานสำเร็จ



ใครเคยเป็นแบบนี้บ้าง? ที่วันๆในหัวสมองมีแต่เรื่องแย่ๆ ลบๆ  ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้าคิดถึงเรื่องความสัมพันธ์ที่มันไม่ลงตัว หรือคิดถึงเรื่องที่ทะเลาะกับเพื่อนสนิท หรือถ้อยคำแย่ๆที่คนอื่นพูดถึงคุณ? กับดักทางความคิดเหล่านี้มันไม่ส่งผลดีใดๆต่อคุณเลยมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกแย่ลง ดังนั้นจงหยุดความคิดลบๆเหล่านั้นซะ คุณอาจจะคิดว่าใช่สิพูดง่ายนะให้หยุดความคิด แต่เวลาลงมือทำจริงมันยากนะ ถ้าอย่างงั้นมาลองมาทำตามวิธีเหล่านี้ดูนะ

1. เริ่มต้นวันด้วยการทำสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน

      ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายในแต่ละวัน ซึ่งมันง่ายมากที่เราจะจมปักอยู่กับอีเมล์(ที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย) ธุระต่างๆ  งานอดิเรก การทะเลาะวิวาท และอื่นๆ พอหมดวันอาจทำเราแทบสลบคาเตียงไปเลย   แล้วคุณก็จบลงด้วยการแหงนหน้าขึ้นมองเพดาน กวาดสายตาไปมาพร้อมกับความรู้สึกผิดว่า ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณไม่ได้ทำ
ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องปกติที่ใครๆก็เป็น แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องไปติดกับดักกับเรื่องพวกนี้ ดังนั้นคุณต้องพยายามที่จะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยเรื่องที่สำคัญที่สุดก่อน คุณยังคงมีเรื่องสำคัญมากมายที่ยังไม่ได้ทำจนกระทั่งหมดวัน แต่มันจะทำให้คุณรู้สึกแต่มันจะทำให้คุณรู้สึกดีถ้าคุณมั่นใจว่าคุณได้ทำเรื่องที่สำคัญที่สุดไปแล้ว

2. เตือนตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่คุณจะต้องทำมันก่อน
การทำเรื่องที่สำคัญที่สุดก่อน คือเป็นสิ่งที่ดี แต่มันจำเป็นที่คุณจะต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่จะต้องมาก่อน
ในสมองของคนเรามักจะมีแต่เรื่องที่ทำให้ไขว้เขวได้อยู่ตลอดเวลา นั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ดีๆ ก็มีเหตุให้ไขว้เขวเพราะมีคำเตือนขึ้นโชว์มุมขวาด้านล่างว่าเพื่อนของคุณเข้ามาคอมเม้นท์ในโพสต์ในFacebookที่คุณได้โพสต์ไว้ จึงมีเหตุให้คุณทิ้งงานเอกสารที่เจ้านายรอเพราะคุณไม่อยากให้เพื่อนรอนานต้องเข้าไปคอมเม้นท์ตอบเพื่อนก่อน  หรือภรรยาคุณส่งข้อความเข้ามาทางไลน์ว่าอย่าลืมหาของขวัญวันเกิดให้ลูกด้วย และอื่นๆ…. จากสิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปีผลจากความไขว้เขวเล็กๆน้อยๆหลายๆเรื่องกลายเป็นส่งผลกระทบต่อจิตสำนึกต่อการให้ลำดับความสำคัญต่อหน้าที่ทำให้บิดเบือนไปจากสิ่งที่ควจจะเป็น
ดังนั้นในแต่ละวันโดยเฉพาะในช่วงเช้า ให้ใช้เวลาเตือนสติตัวเองด้วยการระลึกถึงการให้ลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆที่จะต้องทำ ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องทำจิตให้นิ่ง ด้วยการฟังเพลงที่คุณชื่นชอบ อ่านหนังสือธรรมมะหรือพระคัมภีร์ เขียนบันทึก หรืออาจจะเป็นการอ่านคำคมหรือคติที่ให้แง่คิดกับชีวิต ทำอะไรก็ได้ที่มันจะช่วยให้ใจคุณสงบเพื่อที่จะได้กลับมาให้ความสำคัญกับเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องทำในแต่ละวัน
3. มองหาโอกาสที่จะก้าวหน้าในหน้าที่การงานหรืออาชีพ
ต้นไม้ที่กำลังเจริญเติบโตมักจะหันทิศทางเข้าหาแสงอาทิตย์ มันจะหยั่งรากลึกลงไปในดินเพื่อจะทำให้รากฐานแน่นเวลาที่ต้องเจอกับพายุ มันจะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมรอบๆ เพื่อชดเชยกับการที่ไม่ต้องเคลื่อนไปเผชิญกับหน้าผา ผู้ที่กำลังก้าวหน้าสามารถทำได้หลายอย่างในสิ่งเดิมๆ การมองหาโอกาสทำให้ช่วยปรับปรุงความสามารถของคุณ ลงเรียนคลาสเสริมทักษะต่างๆ อ่านหนังสือ พยายามที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน คนในครอบครัว และที่สำคัญทำทุกอย่างที่จะต่อต้านการหยุดนิ่งอยู่กับที่
4. การดูแลร่างกาย
สมองจะเชื่อมต่อกับทุกส่วนของร่างกายเรา ถ้าคุณต้องการให้สมองสั่งการอย่างถูกต้อง คุณจะต้องดูแลตัวเอง พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ค้นคว้าหาข้อมูลดูว่าอาหารอะไรที่จะช่วยทำให้สมองปลอดโปร่ง อาหารอะไรที่จะทำให้สมองฝ่อ ให้หมั่นสำรวจดูร่างกาย ออกไปรับแสงแดดยามเช้า สูดอากาศบริสุทธิ์  เป็นอิสระจากสิ่งที่ซ้ำซากจำเจไม่พัฒนารวมทั้งเสียงดังต่างๆ  ร่างกายมนุษย์เราแตกต่างกัน ดังนั้นให้ค้นหาความต้องการของคุณผ่านการทดลองและความผิดพลาด
5. อยู่รอบข้างผู้ที่มีจุดหมายชัดเจนและผู้ที่มีความเชื่อมั่น
เรามีแนวโน้มที่จะเหมือนผู้ที่เราใช้เวลาอยู่ด้วย เสาะแสงหาเพื่อนหรือคู่ค้าที่จะช่วยทำให้เราก้าวหน้า หลีกเลี่ยงการคบค้าสมาคมกับกลุ่มคนที่ทำให้คุณรู้สึกอึดอัดใจ พวกที่ชอบดูถูก พวกที่ไร้ความสามารถ  เรียนรู้ที่จะเชื่อมั่นในเข็มทิศภายในใจของคุณ สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนที่ยอมรับคุณในแบบที่คุณเป็นและช่วยสร้างกำลังใจให้คุณพัฒนาตนเอง

No comments:

Post a Comment